สูตรลัดรักษาสิว เผยผิวใส
“สิว” เป็นปัญหาผิวที่พบบ่อยในทุกเพศทุกวัย และธรรมชาติที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน การเป็นสิวมักทำให้คุณสูญเสียความมั่นใจในตัวเองไป ถ้าหากขาดความรู้และการรักษาที่ถูกต้อง โอกาสที่สิวจะสร้างความน่ารำคาญใจก็มีเยอะมากทีเดียว หลายคนพยายามรักษาด้วยวิธีต่างๆ แต่ก็ยังไม่หายสักที วันนี้เรามาทำความเข้าใจเกี่ยวกับสิว สาเหตุการเกิดสิว และ วิธีการรักษาสิว ที่ถูกต้องกัน
ทำความเข้าใจสิว เกิดขึ้นได้อย่างไร
สิว ไม่ว่าจะเป็น สิวหัวดำ สิวหัวขาว และ ซีสต์ โดยส่วนใหญ่มักจะเกิดขึ้นบริเวณใบหน้า หน้าอก หลัง และไหล่ สิวอาจเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน การผลิตน้ำมันมากเกินไป แบคทีเรีย หรือแม้แต่ยาบางชนิด แม้จะพบบ่อยที่สุดในช่วงวัยรุ่น แต่ก็สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัยเมื่อเป็นสิวอาจทำให้คุณรู้สึกเจ็บหรือมีอาการอักเสบได้ นอกจากนี้ ยังอาจทิ้งรอยแผลเป็นที่ฝังแน่นและรอยดำ ซึ่งส่งผลต่อความมั่นใจในตนเองอีกด้วย
ทำความรู้จักสิว 6 ประเภท
สิวเสี้ยน หรือ สิวอุดตัน
มีลักษณะเป็นเม็ดเล็กสีขาวหรือดำ ลักษณะคล้ายเสี้ยนบริเวณจมูกหรือใต้ริมฝีปาก
วิธีการรักษาสิว : ใช้แผ่นลอกสิวเสี้ยน หรือสครับผิวบริเวณนั้น 2 สัปดาห์ต่อครั้ง
สิวหัวดำ
ตรงหัวสิวจะมีความแข็งและมีสีดำ มักขึ้นอยู่บริเวณแก้มหรือหน้าผาก
วิธีการรักษาสิว : ใช้ AHA หรือ BHA ช่วยละลายหัวสิว หรือ ไปกดสิวที่คลินิกโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
สิวอักเสบ
จะมีลักษณะบวม แดง อักเสบ และเป็นก้อนไต อาจมีหัวหรือไม่มีหัวก็ได้
วิธีการรักษาสิว : ใช้ยาแต้มสิว หรือยาละลายหัวสิวทาบริเวณที่เป็นสิว ประมาน 3-5 วัน
สิวหัวหนอง
บริเวณหัวสิวจะมีลักษณะเป็นหนอง มีความอักเสบ บวม นูน และแดง
วิธีการรักษาสิว : กรณีที่มีหนอง ให้ใช้คอตตอนบัตที่สะอาดค่อยๆกดหนองออกมา และทายาแต้มสิว
สิวหัวช้าง
สิวประเภทนี้จะมีหัวสิวใหญ่กว่าสิวทุกประเภท มีความบวม แดง และอักเสบเป็นบริเวณกว้าง
วิธีการรักษาสิว : ถ้าหากมีอาการอักเสบมากให้ทานยาแก้อักเสบ หรือพบแพทย์เพื่อใช้ยาฉีดสิว
สิวผด
มีลักษณะเป็นเม็ดเล็กๆเหมือนผลผื่น ไม่มีหัว แต่มักเกิดอาการคันบริเวณที่เป็นสิว
วิธีการรักษาสิว : หมั่นล้างหน้าให้สะอาด งดใช้สกินแคร์ที่มีน้ำหอมและใช้ยาทาแก้ผดผื่น
เคล็ดลับดูแลตัวเอง ฉบับคนเป็นสิว
1. ทำความสะอาดใบหน้าอย่างอ่อนโยนเป็นประจำ
ใช้คลีนเซอร์สูตรอ่อนโยนที่ไม่ก่อให้เกิดสิววันละสองครั้งเพื่อขจัดสิ่งสกปรก น้ำมันส่วนเกิน และแบคทีเรียออกจากผิว หลีกเลี่ยงการขัดถูแรงๆ หรือใช้น้ำร้อน เนื่องจากอาจทำให้ผิวระคายเคืองมากขึ้นได้
2. ให้ความชุ่มชื้นกับผิวอย่างสม่ำเสมอ
มอยเจอร์ไรเซอร์นั้นสำคัญมาก เลือกมอยเจอร์ไรเซอร์ที่ปราศจากน้ำมันและไม่ก่อให้เกิดสิวเพื่อให้ผิวของคุณชุ่มชื้นโดยไม่อุดตันรูขุมขน การให้ความชุ่มชื้นช่วยรักษาสมดุลของน้ำมันตามธรรมชาติของผิว
3. หลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้า
การสัมผัสใบหน้าด้วยมือที่สกปรกสามารถถ่ายโอนแบคทีเรีย น้ำมัน และสิ่งสกปรกอื่นๆ ไปยังผิวของคุณได้ และทำให้อาการเป็นสิวรุนแรงขึ้น พยายามไม่สัมผัสใบหน้าให้มากที่สุด
4. ใช้เครื่องสำอางที่ไม่ก่อให้เกิดสิว
เลือกผลิตภัณฑ์ที่ระบุว่าไม่ก่อให้เกิดสิวหรือปราศจากน้ำมัน ผลิตภัณฑ์เหล่านี้มีโอกาสน้อยที่จะอุดตันรูขุมขนและทำให้เกิดสิวในอนาคต
5 หมั่นทาครีมกันแดด
ใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF 50 PA+++ เพื่อปกป้องผิวจากรังสียูวีที่เป็นอันตราย การสัมผัสแสงแดดอาจทำให้เกิดการอักเสบและทำให้อาการสิวแย่ลงได้
6. หลีกเลี่ยงการแกะหรือบีบสิว
การแกะหรือบีบสิว อาจทำให้เกิดแผลเป็นและการติดเชื้อเพิ่มเติมได้ ทางที่ดีควรปล่อยให้หายเองตามธรรมชาติหรือไปพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับคำปรึกษา
7 เลือกทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ
อาหารที่สมดุลซึ่งอุดมไปด้วยผักผลไม้ เมล็ดธัญพืช และโปรตีนไร้ไขมันสามารถช่วยให้ผิวแข็งแรงได้ หลีกเลี่ยงอาหารที่มีน้ำตาลและมันเยิ้ม เนื่องจากอาจก่อให้เกิดสิวได้
8. จัดการกับความเครียด
ความเครียดอาจทำให้เกิดสิวได้เช่นกัน แนะนำให้ทำกิจกรรมที่ช่วยลดความเครียด เช่น การออกกำลังกาย นั่งสมาธิ หรืองานอดิเรก เพื่อช่วยควบคุมระดับความเครียด
9. ไม่ล้างหน้ามากเกินไป
การล้างหน้ามากกว่าวันละสองครั้งสามารถดึงน้ำมันตามธรรมชาติออกไปได้ ส่งผลให้เกิดความแห้งและระคายเคือง แนะนำให้ทำความสะอาดวันละสองครั้ง เว้นแต่จะได้รับคำแนะนำจากแพทย์ผิวหนัง
10 ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
หากสิวยังคงอยู่หรือรุนแรง ควรขอความช่วยเหลือคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะช่วยให้ทางเลือกการรักษาที่ที่เหมาะกับความต้องการเฉพาะของแต่ละบุคคล
รักษาสิวที่ Varela Clinic
หลายคนพยายามรักษาสิวด้วยวิธีต่าง ๆ แต่ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้นเท่าไหร่ เราขอแนะนำให้รู้จักกับ V Ultimate Acne (Made Collagen) ผลิตภัณฑ์จาก Varela Clinic ที่จะช่วยให้เรื่องสิวของทุกคนกลายเป็นเรื่องเล็กไปเลย